มัสยิดอัลซอร์รุลมุตตาฮีดีน


ม.2 ต.ตลาดไชยา อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี 84110   077-288431


 


ประวัติความเป็นมามัสยิด

                ตั้งอยุ่ที่98หมู่2ตำบลตลาดไชยาอำเภอไชยาจังหวัดสุราษฎร์ธานี เมือสมเด็จพระนารายมหาราช ทรงเห็นว่าเมืองสงขลา(เมืองสิงหนคร)มีความเจริญมากแล้วถ้าเอาไว้อาจจะเป็นอันตรายต่อกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระนารายมหาราชจึงสั่งให้พระรามเดโช(มะหะหมุด)เป็นแม่ทัพนำทหารตีเมืองสิงหนคร พระรามเดโช(มะหะหมุด)ได้ล้อมเมืองสิงหนคร โดยไม่ให้นำเรือออกทะเลและทำนาข้าวในที่สุดเมืองสิงหนครก็เกิดความระสำระสายจนทำให้เมืองสิงหนครต้องยอมแพ้ต่อกรุงศรีอยุธยา หลังนั้นจากสมเด็จพระนารายมหาราชแบ่งทหารและพลเรือนเป็น 2 ชุด ชุดที่1เป็นวันหนุ่มและอายุไม่เกิน60ปีประกอบด้วย พระยาราชบังสัน พระยาเตาฟิก พระยาหวันมุดา เป็นหัวหน้าเดินทางไปรับราชการที่กรุงศรีอยุธยา ชุดที่ 2 ประกอบด้วยเด็กและคนชราโดยมีสุลตานมัสตอฟาเป็นหัวหน้าในการเดินทางและไปขึ้นฝั่งที่ตะโละ(อ่าว)บ้านมะลวน ไปสร้างบ้านเรือน ณ หมู่บ้านหอวัง ปัจจุบันนี้อยู่ในเขตอ.พุนพิน หลังจากนั้น 5 ปี เจ้าเมืองไชยาว่างลงสมเด็จพระนารายมหาราช จึงได้แต่งตั้งสุลตานมุสตอฟา เป็นเจ้าเมืองไชยา หลังจากนั้นสุลตานมุสตอฟา(พระยาพิชิตภักดีศรีพิชัยสงคราม)ได้เลือกทุ่งไชยาเป็นสถานที่ตั้งเมืองประกอบกด้วย 1.บ้านสงขลา 2.บ้านสงขลากลางและ3.บ้านโต๊ะเจ้า และได้สร้างที่ว่าการเมืองและมัสยิด ณ บ้านสงขลากลางพร้อมสร้างมัสยิดหลังแรก(ปัจจุบันเป็นกุโบร์)ที่ฝั่งศพ จนกระทั่งกรุงศรีอยุธยาเสียงกรุงครั้งที่2กับพม่าในสมัยพระเจ้าเอกทัศน์หลังจากนั้นในสมัยพระยาพิชิตภักดีศรีพิชัยสงคราม(หวันมุดา)ได้อพยพไปอยู่กับลูกหลานที่บ้านพุมเรียงเมือพระยาพิชิตภักดีศรีพิชัยสงคราม(หวันมุดา)ได้อพยพไปอยู่กับลูกหลานที่บ้านพุมเรียงทำให้บ้านสงขลาขาดผู้นำทำให้บ้านสงขลาเกิดความแตกแยก ไม่สามัคคีทำให้เกิดผู้นำใหม่หลายคนจนทำให้มีความคิดจะย้ายมัสยิดส่วนหนึ่งตั้งไปตั้งที่บ้านโต๊ะเจ้าและอีกส่วนหนึ่งให้ไปตั้งที่บ้านสงขลาปรากฏว่าแยกจากตรงเป็นสองมัสยิด1.มัสยิดบ้านโต๊ะเจ้า 2.มัสยิดบ้านสงขลา

                  หลังจากแยกมัสยิดหลังเดิมได้สร้างมัสยิดหลังใหม่มาตั้งริมคูกลางบ้านสงขลาตั้งแต่งสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรีจนถึงสมันรัตนโกสินทร์(ราชการที่7) หลังจากนั้นก็ได้ย้ายที่ตั้งมัสยิดอีกครั้งหนึ่งจากเดิมริมคูกลางบ้านสงขลาย้ายออกจากที่เดิมประมาณ 30 เมตรสมัยนายโตะโซะ ทิพย์หมัด เป็นอิหม่าม เพื่อความสะดวก ความเรีบยร้อยและความปลอดภัยและความเหมาะสมและได้มีการบูรณะครั้งแรกโดยมีนายสะหะ ทิพย์หมัดเป็นนายช่างโดยทำฝาผนังมัสยิดเป็นฝาเสียมและนายตอฮาได้สร้างมิมบัรให้กับมัสยิดจนมีถึงกระทั่งปัจจุบันนี้ หลังจากนั้นได้มีการปรับปรุงมัสยิดอีกครั้งหนึ่งในสมัยนายอีก จรวิเศษเป็นอิหม่ามโดยมีนายพันสองสมุทร ชาวบ้านตะกรบเป็นายช่าง หลังจากนั้นได้ปรับปรุงใหญ่อีกครั้งหนึ่งในสมัยนายมะยูโซะ ทิพย์หมัดเป็นอิหม่ามเนื่องจากปลวดกินฝามัสยิดโดยมีนายสุวรรณ สรรพากรชาวบ้านเหนือน้ำเป็นนายช่าง หลังจากนั้นได้มีการต่อเติมมัสยิดเป็นสองชั้นคอนกรีตในสมันอบิดีน พรไชยเป็นอิหม่ามโดยมีมีนายดาวุด(มุอัลลาฟ)มุสลิม


                  ที่มา http://www.masjidthai.com/masjid/SNI0023.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้คุกกี้ โปรดยอมรับนโยบายคุกกี้เพื่อประสบการณ์การใช้บริการที่ดีที่สุดของท่าน ท่านสามารถศึกษาวิธีการตั้งค่าการควบคุมคุกกี้ของท่านผ่านนโยบายการใช้คุกกี้ของเราที่นี่

นโยบายการใช้คุกกี้ของเราที่นี่ ยอมรับ