มัสยิดฮีดายะตุลอิสลามียะห์

ประวัติความเป็นมามัสยิด

                     มัสยิดฮีดายะตุ้ลอิสลามียะห์ ตั้งอยู่เลขที 49 หมู่ที่ 1 ตำบลโคกเคียน อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา เริ่มทำการก่อสร้างเม่ือ พ.ศ.2525ปัจจุบันอายุ 37 ปี บนที่ดินของบริษัท จุติ บุญสูง หลังจากนั้นที่ดินดังกล่าวทางบริษัท ก็ได้มอบให้ เนื้อที่ 5 ไร่เศษ สาเหตุหลักๆที่บริษัทฯได้มอบที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างก็เพราะว่าร้อยละ 80-90 % สัปบุรุษในแถบนี้เป็นลูกจ้างบริษัท จุติ บุญสูงเกือบทั้งหมู่บ้านก็ว่าได้ พนักงานบริษัททุกคนทางบริษัท เขาจะแจกข้าวสารให้ทุกคนในแต่ละเดือนคนละถุงใหญ่ๆเพื่อเอาใจลูกจ้าง ช่วงแรกๆมัสยิดบางกรักนอกจะมีอาคารหลังเก่าถูกสร้างเป็นอาคารเดียว พื้นมีแค่ทราย ละหมาดก็ละหมาดบนพื้นทราย มุงหลังคาด้วยสังกะสี ที่ดินที่ทำการก่อสร้างได้ซ้ือที่ดินของนายเสม มูหำหมาด เนื้อที่ประมาณ 1 ไร่เศษ เป็นป่าจำปาดะ การซ้อขายในสมัยนั้นประมาณ 500.00 บาท แต่ก็ไม่มีเงินซื้อต้องเรี่ยไรเงินจากชาวบ้าน หลังจากนั้นก็ขอแรงจากชาวบ้านมาช่วยกันถางเพื่อทำการก่อสร้างอาคารดังกล่าว ชาวบ้านแกนนำแต่ละคนก็ช่วยกันออกค่าใช้จ่ายเช่นผู้ใหญ่หยุ้ง บุหงา ซ้ือเสาให้ 1 ต้น ฮัจยีแอ หมาดสตูล 1 ต้น ฮัจยียาซีน 1 ต้น ฮัจยีอะหมาด บินรอโสย 1 ต้น จนกว่าจะครบตามต้องการ ด้วยความที่ไม่มีทุนรอนเลยในการสร้างอาคาร ต่อมานายโสบ นาดี ซึ่งเป็นพ่อค้าขายเจ้าเดียวในหมู่บ้านไปทำการขอซื้อไม้ทั้งหมดคือไปเป็นหนี้มาก่อนแต่ก็ต้องมีคนประกันในขณะนั้นตัวประกันคือฮัจยีแอ หมาดสตูล ปัจจุบันท่านนี้ก็เป็นบิหลั่น ส่วนอิหม่ามคนปัจจุบันคือฮัจยี มูสา ดินหมินดินดังกล่าวทางบริษัท ก็ได้มอบให้ เนื้อที่ 5 ไร่เศษ สาเหตุหลักๆที่บริษัทฯได้มอบที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างก็เพราะว่าร้อยละ 80-90 % สัปบุรุษในแถบนี้เป็นลูกจ้างบริษัท จุติ บุญสูงเกือบทั้งหมู่บ้านก็ว่าได้ พนักงานบริษัททุกคนทางบริษัท เขาจะแจกข้าวสารให้ทุกคนในแต่ละเดือนคนละถุงใหญ่ๆเพื่อเอาใจลูกจ้าง
                   ช่วงแรกๆมัสยิดบางกรักนอกจะมีอาคารหลังเก่าถูกสร้างเป็นอาคารเดียว พื้นมีแค่ทราย ละหมาดก็ละหมาดบนพื้นทราย มุงหลังคาด้วยสังกะสี ที่ดินที่ทำการก่อสร้างได้ซ้ือที่ดินของนายเสม มูหำหมาด เนื้อที่ประมาณ 1 ไร่เศษ เป็นป่าจำปาดะ การซ้อขายในสมัยนั้นประมาณ 500.00 บาท แต่ก็ไม่มีเงินซื้อต้องเรี่ยไรเงินจากชาวบ้าน หลังจากนั้นก็ขอแรงจากชาวบ้านมาช่วยกันถางเพื่อทำการก่อสร้างอาคารดังกล่าว ชาวบ้านแกนนำแต่ละคนก็ช่วยกันออกค่าใช้จ่ายเช่นผู้ใหญ่หยุ้ง บุหงา ซ้ือเสาให้ 1 ต้น ฮัจยีแอ หมาดสตูล 1 ต้น ฮัจยียาซีน 1 ต้น ฮัจยีอะหมาด บินรอโสย 1 ต้น จนกว่าจะครบตามต้องการ ด้วยความที่ไม่มีทุนรอนเลยในการสร้างอาคาร ต่อมานายโสบ นาดี ซึ่งเป็นพ่อค้าขายเจ้าเดียวในหมู่บ้านไปทำการขอซื้อไม้ทั้งหมดคือไปเป็นหนี้มาก่อนแต่ก็ต้องมีคนประกันในขณะนั้นตัวประกันคือฮัจยีแอ หมาดสตูล ปัจจุบันท่านนี้ก็เป็นบิหลั่น ส่วนอิหม่ามคนปัจจุบันคือฮัจยี มูสา ดินหมิน

                   ที่มา http://www.masjidthai.com/masjid/PNA0048.html