มัสยิดอินโดนีเซีย
ซอย สนามคลี ถนน วิทยุ ต.ลุมพินี อ.เขตปทุมวัน จ.กรุงเทพมหานคร 10330 0-2654-2101
ประวัติความเป็นมามัสยิด
เมื่อ 100 ปีกว่ามานี้มุสลิมชาวยวาหรือชวาชนชาติชนชาติเชื้อสายจากประเทศอินโดนิเซียได้ย้ายภูมิลำเนาเดิมบางส่วนมาอาศัยพักพิงในประเทศไทยรุ่นแรกรวมกลุ่มพักอาศัยที่บริเวณตรอกโรงน้ำแข็งอำเภอบางรักกรุงเทพมหานครรุ่นสองมารวมกลุ่มตั้งรกรากที่ซอยโปโลเกลียดปทุมวักรุงเทมหานคร(ตำบลปทุมวันตอนริมคลองเตย) กระจายอาศัยอยู่ตามแหล่งชุมชนซอยรางน้ำบ่อนไก่สะพานหัวช้างสะพานไม้ห้างคอนแวนต์ซึ่งแต่ละครอบครัวมีอาชีพค้าขายทำสวนขับรถเป็นต้นแต่จากแรงศรัทธาต่อเอกองค์ อัลเลาะห์ (ซ.บ.) โดยอีหม่าม อัลมัรฮูมฮัจยีซาและห์ ได้แบ่งที่ดินเช่าทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ตามแปลหมายเลข 19 ก. เนื้อที่ทางทิศเหนือ 10.65 เมตรทิศใต้ 10.30 เมตรทิศตะวันออก 13.20 เมตรและทิศตะวันตก 13.20 เมตรรวมที่ดิน 49 ตารางวาด้วยความร่วมมือร่วมใจกันบริจาคเงินและงานก่อสร้างมัสยิดเป็นอาคารไม้สอชั้นเมื่อปีพ.ศ. 2492 อีหม่ามฮัจยีอาลี บินนรุและคณะกรรมการ ทำเรื่องโอนสิทธิ์เลขที่ทะเบียนบ้านต่อสำนักงานส่วนทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ และหน่วยงานราชการต่างๆรวมทั้งนำเรื่องขอตั้งชื่อกับสถานทูตอินโดนีเซียโดย ฯพณฯ พูดอนุมัติตั้งชื่อมัสยิดอินโดนิเซียตามความเป็นจริงเพื่อชาติเดียวกัน(ตามทะเบียนเลขที่ 85 ของกรมศาสนา) จากการใช้งานทางศาสนกิจหรือสาธารณะชุมชนมีสภาพชำรุดสุดโทรมและมีการซ่อมแซมมาหลายครั้งให้คงสภาพใช้งานได้ตามสภาพประกอบกับพื้นที่มีความจำกัดนอกจากใช้ทำละหมาดชั้นล่าง จัดเป็นโรงเรียนสอนศาสนาและที่เก็บเครื่องใช้ต่างๆอีกทั้งบริเวณโดยรอบใกล้เคียงมัสยิด จะมีชาวต่างชาตินักท่องเที่ยวนักธุรกิจเข้ามาใช้ทำศาสนกิจเป็นจำนวนมาก